วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2555

จริงไหม! ที่ความเชื่อมีผลต่อร่างกายและจิตใจ

มีคนเคยบอกผมว่าความเชื่อ มีผลทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาได้ อย่างเช่น หากเชื่อว่าตัวเองป่วย ร่างกายก็จะป่วยจริงๆ ตอนแรกผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่จากที่ได้พบได้เจอมา หลายต่อหลายคนเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมก็ไม่รู้มันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่จะลองวิเคราะห์จากเหตุการณ์ที่ผมพบมาดูแล้วกันนะครับ

ที่ผมเคยเจอคือ มีหมอดูบอกคนๆ หนึ่งว่า อนาคตเขาจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ จะมีความสุขกับชีวิต ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนที่คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ล้มเหลว รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เขาจึงได้ไปหาหมอดูเพื่อดูว่าอนาคตเขาจะเป็นอย่างไร

หมอดูกลับบอกว่าชีวิตเขาจะมีความสุขในอนาคต หลังจากนั้นเขาดูมีชีวิตชีวาขึ้น ร่าเริง และเริ่มเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ทำให้เขาเริ่มจริงจังกับสิ่งที่เขาทำ งานที่เขาทำอยู่ก็เริ่มจะดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ทั้งๆ ที่ผมยังมองว่าตัวเขาก็ไม่เห็นเปลี่ยนอะไรเลย ยกเว้นทัศนคติ

นั่นคือคนหนึ่งที่ผมพบ เมื่อเปรียบเทียบกับตัวผมเอง ผมเป็นคนสุขภาพไม่แข็งแรง โรคเยอะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปตรวจร่างกายชุดใหญ่ ซึ่งมีการ Ultra Sound ตับด้วย หมอที่ทำ Ultra Sound จะชวนเราคุย พร้อมกับทำไปเรื่อยๆ อยู่ๆ หมอพูดว่า "ไขมันเกาะตับค่อนข้างเยอะ หมอสังเกตเห็นจุดดำๆ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร เดี๋ยวหมอเก็บภาพไว้ แล้วให้หมออ่านผลบอกแล้วกัน"

พอทำ Ultra Sound เสร็จก็นั่งรอฟังผลกับหมออีกท่าน ผมคิดในใจว่า "ตายแล้ว จุดดำๆ หรือว่าจะเป็นมะเร็งตับ" พอคิดอย่างนั้นแล้วทำให้รู้สึกว่าใจห่อเหี่ยวมาก พอเข้าไปพบหมอ หมอก็บอกว่าจุดที่เห็นนั้น บอกแน่ชัดไม่ได้ว่าเป็นอะไร ถ้าจะให้รู้คงต้องรอดูก่อน สัก 3 เดือนให้มาตรวจใหม่ แต่หมอบอกว่าคงไม่ใช่เนื้อร้ายหรอก แต่เพื่อความแน่ใจก็มาตรวจอีกครั้งแล้วกัน

ช่วงเวลาหลังจากตรวจร่างกายเสร็จ เดือนแรกผมจิตใจอยู่ไม่เป็นสุขเลยครับ ครุ่นคิดต่างๆ นาๆ ว่าผมจะเป็นมะเร็งตับไหม จะตายไหม คิดถึงพ่อ แม่ คนที่เรารัก ว่าเขาจะเป็นอย่างไรถ้าเราตายไปแล้ว คิดทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บป่วยในร่างกายแม้แต่นิดเดียว แต่พอผมคิดมากๆ เข้าจนทนไม่ไหว มีครั้งนึงผมพูดกับตัวเองว่า "เครียดมาตั้งหลายวัน แล้วนี่เรารู้แล้วหรอว่าเราเป็นมะเร็ง" ก็เพิ่งมานึกได้ว่า เราไม่ได้เป็นอะไรนี่ ความเครียดต่างหากที่ทำให้เราป่วย หมอก็บอกว่าคงไม่ใช่ แล้วเราจะกังวลอะไร หลังจากนั้นผมก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม

สิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่เราเชื่อไปเอง จนทำให้เราเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าร่างกายเราไม่ได้ป่วย แต่ความคิดเราทำให้ร่างกายห่อเหี่ยว และเฉาไปเอง ซึ่งผมคิดว่าถ้าผมอยู่ในอาการนั้นถึง 3 เดือน ผมว่าผมได้ป่วยจริง แน่นอน เพราะช่วงที่ผมเครียดๆ นั้นก็รู้สึกไม่ค่อยสบายด้วย

ผมถือว่าความเชื่อเป็นสิ่งที่มีผลต่อร่างกาย และจิตใจมาก ตอนนี้ผมจะทำให้ตัวเองหายเครียดได้ โดยสร้างความเืชื่อว่า เรามีความสุข เราสามารถสร้างความสุขให้ตัวเอง และคนรอบข้างได้ ถ้าใครที่รู้จักผม จะเห็นผมร่าเริงอยู่เสมอ เพราะความเชื่อที่ผมสร้างให้กับตัวเอง ซึ่งทำให้ผมมีความสุขจริงๆ ครับ