เมื่อวานผมเขียนถึงเป้าหมายของผมไปแล้ว อันนั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากจะก้าวไปให้ถึง พอดีเมื่อวานเพื่อนผมถามผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานของผมคืออะไร ระหว่าง 1. ต้องการรายได้สูงๆ 2. ต้องการความมั่นคง 3. ต้องการชื่อเสียง 4. ต้องการพัฒนาตนเอง 5. ต้องการอำนาจหน้าที่ และอีกหลายๆ ข้อที่ผมจำไม่ได้ เขาบอกให้ผมเลือกที่ผมคิดว่าผมต้องการที่สุด และผมก็เลือกข้อ 4. ต้องการพัฒนาตนเอง
เพื่อนผมถามต่อว่าทำไมถึงคิดว่าข้อนี้สำคัญที่สุดสำหรับผม ผมนิ่งอยู่พักหนึ่ง เพราะผมนึกไม่ออกว่าทำไมผมเลือกข้อนั้น เพื่อนอีกคนให้ความเห็นว่า เพราะว่าถ้าผมพัฒนาตัวเองแล้ว อย่างอื่นก็จะตามมาเองใช่ไหม ถ้าในทฤษฎีมันใช่ครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่คำตอบที่ผมคิดตอนที่ผมเลือกข้อนี้
ผมใช้เวลานึกสักพัก (เพราะเพื่อนมันรอฟังคำตอบอยู่) ผมก็ตอบมันว่า "กูก็ไม่รู้เหมือนกัน มันคงจะเป็นความใฝ่ฝันมั้ง ที่ว่ากูอยากเก่ง" ใช่ครับ ผมไม่เคยคิดฝันว่าผมจะต้องรวย มีรายได้มากๆ แต่คงไม่แปลกที่ผมอยากจะมีชื่อเสียง แต่ชื่อเสียงที่ผมอยากได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมาจากที่ผมทำงานเก่ง ผมเลยรู้สึกว่าที่ผมอยากพัฒนาตนเอง เพราะผมอยากเก่ง แค่นั้น
ผมเลยมามองดูว่าถ้าเทียบตัวผมกับผู้จัดการคนอื่นๆ ที่ผมไปเจอมา มันมีอะไรบ้างที่ผมขาดไป หรือสิ่งที่เขาผิดพลาดมันอยู่ตรงไหน ผมถือว่าผมโชคดีมากเพราะงานของผมทำให้ผมได้มีโอกาสพบเจอคนมากมาย ได้นั่งประชุม นำเสนองานกับผู้บริหาร ของบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ใน SET50 มาหลายท่าน และหลายครั้ง และยังมีโอกาสเจอกับผู้จัดการโรงงานอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการฝ่ายต่างๆ ในองค์กรภาครัฐ ทำให้ผมพบสิ่งที่น่าสนใจ และจุดบกพร่องมากมายของคนแต่ละคน
เริ่มจากปัญหาแรกเลยที่คิดว่าเป็นปัญหาของผู้จัดการมือใหม่มากๆ คือ "ไม่กล้าตัดสินใจ" ความไม่กล้าตัดสินใจผมแยกเป็น 2 ความหมายนะครับ คือ "ติดสินใจไม่เป็น" กับ "กลัวผลลัพธ์จากการตัดสินใจ" ผู้จัดการมือใหม่มักจะเป็นแบบแรก รวมทั้งตัวผมเมื่อก่อนด้วย คือ "ตัดสินใจไม่เป็น"
สำหรับตัวผมขึ้นมาเป็นผู้จัดการในช่วงอายุที่ผมคิดว่ายังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ พอถึงเวลาที่เราจะต้องตัดสินใจ Logic ในหัวมันประเมินสิ่งที่เข้ามาไม่ได้ว่า จะต้องทำอย่างไร ไปทางไหนดีกว่ากัน หรือผลลัพธ์ในแต่ละทางที่จะเลือกมันจะเป็นอย่างไร ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ทำให้ประเมินสถาณการณ์ไม่ถูก แต่ผู้จัดการมือใหม่ที่เป็นแบบนี้ โปรดสบายใจ เพราะอย่างที่บอกมันต้องอาศัยประสบการณ์
ตัวผมโชคดีมากครับ ที่มีคนคอยสอน คอยช่วยเหลือ ถ่ายทอดประสบการณ์และให้โอกาสอยู่เสมอ ผมถือว่าการเดินทางบนเส้นทางผู้จัดการของผม ผมเรียกว่าผม "ขี่จักรยานสามล้อ" ดีกว่า เพราะถึงแม้ผมจะไม่ได้พัฒนาตัวเองแบบพรวดพราด แต่ผมไปช้าๆ อย่างมั่นคง เพราะจักรยานสามล้อ มันล้มยากนะ ^^
ผู้จัดการมือใหม่ที่ไม่ติดกับดักนี้ คือกล้าตัดสินใจ ก็จะมีทางให้ไปอยู่สองทาง คือ "ทางมุ่งสู่ดวงดาว" กับไปติดที่กับดักที่สอง คนที่กล้าตัดสินใจ โดยที่ Logic ในหัวถูกมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะด้วยการศึกษา การเลี้ยงดู หรือการพัฒนาการทางความคิด มีส่วนทำให้กล้าตัดสินใจ และมุ่งสู่ดวงดาวได้ง่าย
แต่กับบางคนที่กล้าตัดสินใจ โดยมีแค่ความกล้า แต่ไม่ได้วางแผนถึงผลลัพธ์ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด พอเกิดความผิดพลาด โดยที่ไม่เตรียมใจมาก่อน กับดักที่สองจะทำงานทันที ทำให้ถึงแม้ว่าเวลาผ่านเลยไป วัยวุฒิ ประสบการณ์พร้อม แต่ยังมีความลังเลที่จะตัดสินใจ เพราะ "กลัวสิ่งที่จะตามมา เหมือนความผิดพลาดเมื่อครั้งอดีต" ทุกวันนี้ผมยังพบเจอผู้จัดการโรงงาน หรือผู้ใหญ่ในหน่วยงานราชการ ที่ทำงานแบบ Save Save ทุกอย่างต้องปลอดภัยกับตัวเองไว้ก่อน ทำให้บางครั้งที่จะต้องตัดสินใจเพื่อให้องค์กรวิ่งไปข้างหน้า กลับกลายเป็นค่อยๆ เดิน หรือหยุดอยู่กับที่
พอผมเขียนมาถึงตรงนี้แล้วกลับไปอ่านดูข้อความด้านบน รู้สึกว่าเป็นปัญหาของผมจริงๆ ที่เขียนสั้นๆ ไม่เป็น ในเมื่อเนื้อหามันก็ยาวมากแล้ว งั้นขอยกข้ออื่นๆ ไปในตอนถัดไปดีกว่านะครับ เดี๋ยวคนอ่านจะเหนื่อย จนพาลขี้เกียจอ่านเสียเปล่าๆ ตอนถัดไปก็ยังคงพูดเรื่อง "สิ่งที่เป็นปัญหาของผู้จัดการมือใหม่" อยู่นะครับ ติดตามได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น